วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2560

การป้องกันภัยจากอินเตอร์เน็ต

วิธีป้องกันจากการถูกแฮกรหัสเฟซบุ๊ก

แฮกรหัส
1. ใช้ 3G/4G ตลอดเวลา อย่าไปใช้ WiFi ที่ไหน นอกจากที่บ้าน แม้แต่ในหอพัก หรือ โรงแรม ที่มีการแจกรหัส WiFi ให้ใช้ฟรี ก็ไม่ควรใช้ เพราะมันเป็นการใช้งาน ผ่าน Router ตัวเดียวกัน สามารถถูกดักข้อมูลได้
2. อย่าใส่เบอร์มือถือของเครื่อง สมาร์ทโฟน หรือ ไอโฟน ที่มีบัญชี Facebook บัญชีนั้นๆ อยู่ เพราะถ้าผู้ไม่หวังดีขโมยเครื่องของเราไปได้ เขาก็แค่ล็อคเอาท์แล้วก็ร้องขอให้ตั้งรหัสผ่านใหม่ ( Reset password ) ผ่านทาง Facebook ได้ โดยเฟซบุ๊กก็จะส่งตัวเลขยืนยัน สำหรับการตั้งรหัสผ่านใหม่มาให้ แค่นั้นผู้ไม่หวังดีก็จะได้บัญชี Facebook ของเราไปครอบครอง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมถึงต้องใส่เบอร์ พ่อ แม่ พี่ น้อง ที่ไว้ใจได้ หรือเบอร์ลับที่ไม่มีใครรู้จะดีที่สุด เพื่อเราจะสามารถตั้งรหัสผ่านใหม่ให้กับบัญชีของเราได้ ในกรณีที่ถูกขโมยมือถือไปคนที่ขโมยก็จะเข้าไปที่ Facebook ของเราไม่ได้
3. อย่าทำมือถือหาย อันนี้สำคัญที่สุด
4. ตั้งรหัสผ่านให้ยากเข้าไว้ อย่าให้ใครมาสุ่มเดาได้ เอาเป็นอะไรก็ได้ ที่ไม่เกี่ยวกับเรา คนใกล้ชิด จะได้เดาไม่ถูก
5. เปลี่ยนรหัสผ่านบ้าง ทุกเดือนก็ดีนะ อย่าใช้รหัสเดียวกันไปตลอด
6. ใช้งานเฟซบุ๊กผ่านทางแอพพลิเคชั่น Facebook บนสมาร์ทโฟน , แท็บเล็ต , ไอโฟน หรือ ไอแพดจะดีที่สุด พยายามหลีกเลี่ยงการใช้งานผ่านทาง PC (ยกเว้น PC ที่บ้าน อันนี้มั่นใจได้แน่นอนว่าปลอดภัย)
7. เพิ่มเบอร์มือถือของพ่อ หรือ ของแม่ หรือของพี่น้องคนใกล้ชิดที่ไว้ใจได้ ล้านเปอร์เซ็นต์ลงในบัญชี Facebook เพื่อเอาไว้ยืนยันเวลาลืม password หรือ เวลาที่เฟซบุ๊กมีปัญหาไม่สามารถเข้าใช้งานได้
8. อย่าบันทึกรหัสผ่าน Facebook เอาไว้ในบราวเซอร์ ในคอมพิวเตอร์ ที่ทำงาน หรือที่บ้าน เป็นอันขาด เพราะคุณจะไม่รู้หรอกว่า เพื่อน หรือว่า แฟนของคุณที่บ้านอาจจะอยากเข้าไปดูในเฟซของคุณก็ได้ ใช้วิธีจำเอาไว้ ดีที่สุด
Posted in อินเตอร์เน็ต | Tagged  | Comments Offon วิธีป้องกันจากการถูกแฮกรหัสเฟซบุ๊ก

หลักการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

12_20130123150059
ในปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ บนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ได้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก เพราะเป็นช่องทางที่สามารถติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงธุรกิจและพาณิชย์ในด้านต่างๆ ช่วยในเรื่องการลดระยะเวลาและต้นทุนในการติดต่อสื่อสาร แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้โดยทั่วไป ยังไม่เห็นความสำคัญ ของการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยเท่าที่ควร เนื่องจากยังขาดความรู้ในการใช้งานและวิธีป้องกัน หรืออาจคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไรมาก ในการใช้งาน แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับตัวเองแล้ว ก็ทำให้ตนเองเดือดร้อน เราสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ ดังนี้
1 ไม่ควรเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว
2 ไม่ส่งหลักฐานส่วนตัวของตนเองและคนในครอบครัวให้ผู้อื่น เช่น สำเนาบัตรประชาชน เอกสารต่างๆ รวมถึงรหัสบัตรต่างๆ เช่น เอทีเอ็ม บัตรเครดิต ฯลฯ
3 ไม่ควรโอนเงินให้ใครอย่างเด็ดขาด นอกจากจะเป็นญาติสนิทที่เชื่อใจได้จริงๆ
4 ไม่ออกไปพบเพื่อนที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต เว้นเสียแต่ว่าได้รับอนุญาตจากพ่อแม่ผู้ปกครอง และควรมีผู้ใหญ่หรือเพื่อนไปด้วยหลายๆ คน เพื่อป้องกันการลักพาตัว หรือการกระทำมิดีมิร้ายต่างๆ
5 ระมัดระวังการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงคำโฆษณาชวนเชื่ออื่นๆ เด็กต้องปรึกษาพ่อแม่ผู้ปกครอง โดยต้องใช้วิจารณญาณ พิจารณาความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
6 สอนให้เด็กบอกพ่อแม่ผู้ปกครองหรือคุณครู ถ้าถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต (Internet Bullying)
7 ไม่เผลอบันทึกยูสเซอร์เนมและพาสเวิร์ดขณะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์สาธารณะ
อย่าบันทึก!ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดของคุณบนเครื่องคอมพิวเตอร์นี้” อย่างเด็ดขาด เพราะผู้ที่มาใช้เครื่องต่อจากคุณ สามารถล็อคอินเข้าไป จากชื่อของคุณที่ถูกบันทึกไว้ แล้วสวมรอยเป็นคุณ หรือแม้แต่โอนเงินในบัญชีของคุณจ่ายค่าสินค้าและบริการต่างๆ ที่เขาต้องการ ผลก็คือคุณอาจหมดตัวและล้มละลายได้
8 ไม่ควรบันทึกภาพวิดีโอ หรือเสียงที่ไมเหมาะสมบนคอมพิวเตอร์ หรือบนมือถือ
เพราะภาพ เสียง หรือวีดีโอนั้นๆ รั่วไหลได้ เช่นจากการแคร็ก ข้อมูล หรือถูกดาวน์โหลดผ่านโปรแกรม เพียร์ ทู เพียร์ (P2P) และถึงแม้ว่าคุณจะลบไฟล์นั้นออกไปจากเครื่องแล้ว ส่วนใดส่วนหนึ่งของไฟล์ยังตกค้างอยู่ แล้วอาจถูกกู้กลับขึ้นมาได้ โดยช่างคอม ช่างมือถือ

Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Offon หลักการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

ความปลอดภัยของการใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย

1โลกปัจจุบันเป็นโลกสื่อสารไร้พรมแดนด้วยเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต สามารถทำให้คนเราซึ้งอยู่คนละมุมโลกติดต่อกันได้อย่าสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อมูล ภาพ เสียง ไฟล์ต่างๆ รวมทั้งวีดีโอคอลที่ทำให้คนที่พูดคุยกันเห็นหน้าเห็นตากันเหมือนพูดคุยกันอยู่ซึ่งๆ หน้าเลย ความสะดวก สบาย ประหยัดค่าใช้จ่าย แฝงมาด้วยอันตรายจากมิจฉาชีพ เราต้องดูเรื่องความปลอดภัยของการใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย เรากำลังถูกจับตามองจากต่างชาติ เพราะเราเป็นอันดับที่สามที่เป็นแหล่งไวรัสโทรจันรองจากจีนและอินโดนีเซีย และมีสถิติการถูกขโมยเงินทางอินเตอร์เน็ตมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลย เนื่องจากมีนักเจาะระบบหรือว่าแฮกเกอร์เข้ามาอาศัยอยู่เมืองไทยมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ หรือชาวไทยเอง ทำให้ความมั่นใจในการที่จะมาลงทุนลดน้อยลงไป เพราะหลายคนที่จะมาลงทุนในประเทศไทยกลัวความเสี่ยงในเรื่องของความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ ความเสี่ยงทางเทคโนโลยีสามารถแบ่งได้ 3 ประเภท ความเสี่ยงจากการใช้สมาร์ทโฟน ในปัจจุบันเราสามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อเชื่อมต่อกับระบบอินเตอร์เน็ต การใช้บริการออนไลน์ต่างๆ การใช้บริการเหล่านี้ หลายครั้งที่เราต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวไปด้วย ซึ่งมิจฉาชีพก็อาจล่วงข้อมูลของเราไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางด้านการเงินจะเอาข้อมูลนั้นไปใช้ในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายได้
ถูกหลอกให้โอนเงินผ่านอินเตอร์เน็ต ในปัจจุบันก็มีการขายของมากมายบนอินเตอร์เน็ตมีการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ที่ผ่านมาก็มีหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นบริษัทท่องเที่ยวซึ่งอาจเป็นบริษัทปลอม ที่เปิดหน้าเว็บไซต์ขึ้นมาก โฆษณาแพคเกจทัวร์ที่ถูก พอเราโอนเงินไปแล้ว ติดต่อไม่ได้ ปรากฏว่าบริษัทนั้นไม่มี อาชญากรก็ปิดเบอร์โทรหนี ปิดเว็บไซต์หนี เราก็เสียเงินฟรี  สินค้าต่างๆ บาทที่ก็โฆษณาว่ามีสินค้าชนิดนั้นชนิดนี้ อาจจะได้สินค้าที่ไม่ตรงตามที่ต้องการ เช่น สั่งไอแพด ได้ขนม และยังมีการสร้างเว็บปลอม เป็นเว็บของธนาคาร โดยให้ลูกค้าของธนาคารไปกรอกข้อมูล ทำให้อาชณากรรู้ข้อมูลของเรา แล้วเอาข้อมูลของเราไปเบิกเงินจากทางธนาคารมาใช้ ความเสี่ยงจาการเชื่อมต่อไวไฟ (Wi-Fi) สาธารณะ ในปัจจุบันมีอาชญากรที่พยายามปลอยสัญญาตามชุมชนต่างไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า ที่สาธารณะ โดยตั้งชื่อเหมือนกันชื่อบริษัทที่ให้บริการที่มีชื่อเสียงผู้ใช้ทั่้วไปก็จะไม่ทราบ เชื่อต่อกับระบบสัญญาเข้าไป โดยบางครั้งก็มีการกรอกข้อมูลส่วนตัวเขาไปด้วย ข้อมูลก็จะถูกดูดออกไปจากระบบทำให้อาชญากรรู้ข้อมูลของเรา ข้อมูลทางด้านการเงินก็นำไปใช้ในทางที่ผิดต่อไป ปลอมได้ไงเพราะในประเทศไทยสามารถซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์มาใช้ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนทำให้เป็นช่องว่างทางกฎหมาย อาชญากรสามารถซื้อมาแล้วก็ต่ออินเตอร์เน็ตได้โดยไม่ได้ลงทะเบียนซิมการ์ด
Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Offon ความปลอดภัยของการใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย

การถูกสวมรอยง่ายๆ แค่เล่น Facebook อย่างไม่ระวัง

A smartphone user shows the Facebook application on his phone in Zenica, in this photo illustration
ในยุคปัจจุบันที่ Social Network หรือสังคมออนไลน์กำลังได้รับความนิยม ไว้ติดต่อสื่อสาร ประชุมงาน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความคิดเห็นและแชร์ข้อมูลต่างๆ ทำให้เหล่ามิจฉาชีพหันมาขโมยข้อมูลและสร้างความเดือดร้อนให้กับเราได้มากขึ้น วันนี้พี่เสือมีข้อมูลเกียวกับการทำงานของมิจฉาชีพเหล่านี้และวิธีการป้องกันตัวเองมาฝากจ้า หลอกว่ามาดีแต่จริงๆประสงค์ร้าย การโจมตีแบบนี้ เป็นหนึ่งในวิธีการที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เน้นการโจมตีที่ตัวบุคคล โดยผู้ใช้งานมักจะคาดไม่ถึง และ ตกเป็น เหยื่อในที่สุด ส่วนมากจะมาในรูปแบบของ แอพพลิเคชั่นบน Facebook หรือการเล่นเกมเพื่อแลกของรางวัล เมื่อผู้ใช้งานคลิกเข้าไปใช้ งานแอพพลิเคชั่นหรือร่วมเล่นเกมดังกล่าว ก็จะตกเป็นเหยื่อของพวกอาชญากรโดยไม่ทันตั้งตัว
ล่อเหยื่อตกปลาออนไลน์ในอดีตเป็นเทคนิคการล่อลวงที่มักจะส่ง URL Link ที่ล่อให้ไปเข้าเว็บไซด์ปลอม ที่ส่งมาทางอีเมล โดยอาชญากร จะหลอกให้ผู้ใช้งานคลิก URL Link ที่อยู่ในอีเมล แต่ปัจจุบันอาชญากรจะส่ง URL Link ที่ย่อให้สั้นลง เช่น คลิปวิดีโอหรือไฟล์ของรูปภาพ และนำไปสู่เว็บไซด์ปลอม เพื่อดักขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ผ่านทางสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น โค้ดร้ายฝังลึก เป็นเทคนิคการโจมตีผู้ใช้งาน Facebook โดยอาชญากรจะทำการฝังโค้ด หรือสคริปต์การทำงานของตนเองเข้าไปบนหน้าเว็บไซด์ที่มีช่องโหว่ ซึ่งข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ Facebook เช่น Username และ Password จะถูกส่งกลับมาให้อาชญากร แทนที่จะผ่านเข้าไปในเว็บไซด์ที่ผู้ใช้ Facebook กำลังเยี่ยมชมอยู่
ถูกสวมรอยง่ายๆ แค่เล่น Facebook อย่างไม่ระวัง เป็นวิธีการที่อาชญากรใช้ในการโจมตีผู้ใช้ Facebook หรือ Internet Banking โดยการแอบขโมยสิทธิ หรือ Credential ที่ผู้ใช้ได้ล็อกอินเว็บไซด์ ค้างไว้ ซึ่งอาชญากรอาจนำ Credential ของเราไปใช้งานต่อ เช่น ทำการโอนเงินออก จากบัญชีของผู้ใช้งานระบบ Internet Banking โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เป็นต้น หลอกให้คลิกแต่แอบซ่อนมีดไว้รอเชือดเป็นเทคนิคการโจมตีผู้ใช้งานโดยหลอกให้คลิกรูปที่ดูล่อตาล่อใจบนเว็บไซด์ซึ่งอาชญากรจะแอบซ่อน Invisible frame ไว้หลังรูป เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างที่เหยื่อไม่รู้ตัวเลยว่ามี Script มุ่งร้ายแอบซ่อนอยู่ โดนหลอกล่อให้ไปเจอ Link ที่อาชญากร รออยู่ ผู้ใช้งาน Facebook อาจถูกโจมตี ด้วยโปรแกรมประสงค์ร้าย ที่สามารถทำการติดตั้งลงบนเครื่อง ของผู้ใช้งาน Facebook เพียงแค่ผู้ใช้งานเข้าไปเยี่ยมเว็บไซด์ ที่อาชญากรโพสต์ เป็น Link ล่อเหยื่อไว้บน Facebook Page และผู้ใช้งาน เผลอดาวน์โหลดโดยไม่รู้ตัว
Posted in อินเตอร์เน็ต | Comments Offon การถูกสวมรอยง่ายๆ แค่เล่น Facebook อย่างไม่ระวัง

ความอันตรายของโลกออนไลน์ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบมากมาย

11
สังคมที่ตกต่ำลงเป็นผลพวงของการเติบโตอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนว่ายากที่จะควบคุม ความอันตรายของโลกออนไลน์ ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบมากมาย (โดยเฉพาะในทางไม่ดี) มีการโชว์คลิปต่างๆ ที่เป็นการทำลายจริยธรรมของมนุษย์ผ่านทางเว็บไซต์ที่เผยแพร่คลิป ส่งผลเสียต่อสังคมและวัฒนธรรม ทำให้เด็กและเยาวชนจำนวนไม่น้อย ส่อแววมีพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายคลิปทำร้ายร่างกายกัน การบังคับขืนใจและใช้การถ่ายคลิปเพื่อข่มขู่ การทำร้ายกัน การฆ่าตัวตาย หรือแม้แต่การถ่ายรูปตัวเองในลักษณะที่ยั่วยวนและนำขึ้นไปโพสท์ตามเว็บต่างๆ ทำให้เกิดปัญหาพฤติกรรมทางเพศของเด็กและเยาวชนที่รวดเร็วขึ้น
Wi-Fi ปลอม มีลักษณะเดียวกันกับเว็บไซต์ปลอมแม้ว่าหลักการยังคงเหมือนเดิมแต่รูปแบบของการใช้เว็บปลอมก็ได้มีการพัฒนาให้มีความแยบยลมากขึ้น เช่น การที่เหยื่อเข้าไปนั่งในร้านกาแฟร้านหนึ่ง และค้นหาสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย (โดยเฉพาะที่ฟรี) ซึ่งอาชญากรไซเบอร์รู้ถึงพฤติกรรมนี้ดี ว่าเมื่อคนเราเจอสัญญาณฟรีในที่สาธารณะ เรามักจะลองเข้าเพื่อใช้งาน ซึ่งอาชญากรไซเบอร์ก็ได้เตรียมเว็บไซต์ปลอมสำหรับการให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีขึ้น โดยเมื่อเหยื่อได้ทำการเชื่อต่อสัญญาณ จะมีหน้าต่างปรากฏในลักษณะที่แจ้งถึงเงื่อนไขการใช้บริการฟรีอินเตอร์เน็ต เพียงแต่ให้เหยื่อกรอกข้อมูลก็สามารถเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ตฟรี อาจจะเป็นเพียงการกรอกข้อมูล อี-เมล และตั้งพลาสเวิร์ดสำหรับการใช้งาน แต่โดยปกติคนเราก็มักจะใช้พลาสเวิร์ดซ้ำๆ กันอยู่แล้ว ทำให้เหล่าอาชญากรไซเบอร์ทำการสุ่มและเดาได้ว่าจะใช้พลาสเวิร์ดที่ได้มาทำอะไรต่อไป และเมื่อเหยื่อกรอกข้อมูลกับเป็นการส่งข้อมูลนั้นไปยังอาชญากรไซเบอร์ แถมยังไม่สามารถเข้าใช้งานได้อีก
ภัยจากเว็บไซต์ปลอม ลักษณะของเว็บปลอมนั้น อาชญากรไซเบอร์จะทำการส่งอี-เมลไปยังเหยื่อ โดยอาจจะใช้ที่อยู่และอี-เมลของธนาคาร เมื่อเหยื่อทำการคลิกเข้าไปแล้ว หน้าต่างใหม่จะถูกเปิดขึ้น โดยหน้าตาเว็บไซต์ปลอมนั้นจะมีลักษณะเหมือนกับหน้าเว็บไซต์จริงๆ ของธนาคาร และจะมีข้อความแจ้งในทำนองว่า ให้เหยื่อทำการอัพเดทข้อมูลส่วนตัว เพื่อปรับปรุงและสามารถเข้าใช้งานได้ต่อไป เมื่อเหยื่อกรอกข้อมูลแล้ว กดยืนยัน ข้อมูลที่เหยื่อกรอกกับถูกส่งไปที่อาชญากรไซเบอร์ แทนที่จะไปที่เว็บไซต์ของธนาคาร เว็บไซต์ประเภทนี้ยังคงเป็นช่องทางหลักของเหล่าอาชญากรไซเบอร์ที่ใช้ในการหลอกเหยื่อให้หลงกลทำให้เหยื่อหลงเชื่อทำการกรอกข้อมูลส่วนตัว รหัสต่างๆ ซึ่งทำให้อาชญากรไซเบอร์เหล่านั้นสามารถนำข้อมูลของเหยื่อไปใช้ประโยชน์ต่อไ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น